Article Name
Share
Details
Date
Category
Reading Time
1 November 2023
Consulting
8 Min
วัสดุหลักที่ใช้ในการทำ Facade
Facade เป็นองค์ประกอบสำคัญของอาคารที่มีบทบาททั้งด้านสถาปัตยกรรมและฟังก์ชันการใช้งาน การเลือกวัสดุที่นำมาใช้ทำ Facade จึงมีความสำคัญ วัสดุที่นำมาใช้ในการติดตั้ง Facade ต้องมีความทนทาน แข็งแรง และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานให้กับอาคารโดยการ ลดการถ่ายเทความร้อนจากภายนอก ช่วยลดภาระการทำงานของระบบปรับอากาศ และเพิ่มการใช้แสงธรรมชาติให้มากขึ้น บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักวัสดุที่นิยมใช้สำหรับงาน Facade และวิธีเลือกวัสดุให้เหมาะสมกับอาคารของคุณ
1. กระจก (Glass)
กระจกเป็นวัสดุยอดนิยมที่ใช้ในงาน Facade เนื่องจากให้ความสวยงาม และความทันสมัย สามารถสะท้อนเอกลักษณ์ของอาคาร และเพิ่มมิติให้กับงานสถาปัตยกรรมได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ กระจกยังช่วยให้แสงธรรมชาติเข้ามาภายในอาคารได้มากขึ้น ลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงกลางวัน และช่วยลดภาระของระบบปรับอากาศหากใช้กระจกที่มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันความร้อน

กระจกที่ใช้ทำ Facade มีหลายประเภท ได้แก่:
● กระจกนิรภัยเทมเปอร์ (Tempered Glass)
Windows & Doors เป็นระบบติดตั้งหน้าต่างและประตู ที่ใช้แผงกระจกหรือวัสดุอื่นๆ เพื่อให้แสงธรรมชาติส่องเข้าภายในอาคาร และช่วยระบายอากาศได้ดี ระบบนี้เหมาะสำหรับอาคารที่ต้องการความยืดหยุ่นในการใช้งาน เนื่องจากสามารถเปิด – ปิด เพื่อควบคุมการไหลเวียนของอากาศได้ ต่างจากระบบ Curtain Wall ที่เป็นโครงสร้างปิด


● กระจกลามิเนต (Laminated Glass)
กระจกที่ประกอบด้วยแผ่นกระจกสองแผ่นหรือมากกว่าที่มีชั้นฟิล์ม PVB คั่นกลาง หากแตก เศษกระจกจะยังคงยึดติดกับฟิล์ม ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ และเพิ่มความปลอดภัย เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น หน้าต่างอาคารสูง หรือกระจกหน้าร้าน


● กระจกลามิเนต (Laminated Glass)
กระจกที่ประกอบด้วยแผ่นกระจกสองแผ่นหรือมากกว่าที่มีชั้นฟิล์ม PVB คั่นกลาง หากแตก เศษกระจกจะยังคงยึดติดกับฟิล์ม ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ และเพิ่มความปลอดภัย เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น หน้าต่างอาคารสูง หรือกระจกหน้าร้าน

กระจกที่เคลือบสารสะท้อนแสงเพื่อช่วยลดปริมาณรังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์ที่เข้าสู่ตัวอาคาร ทำให้ช่วยลดอุณหภูมิภายใน ลดการใช้พลังงานจากเครื่องปรับอากาศ และเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับอาคาร เนื่องจากพื้นผิวด้านนอกของกระจกสามารถสะท้อนแสงได้สูง ทำให้ผู้ที่อยู่ภายนอกมองเข้ามาในอาคารได้ยากขึ้น โดยเฉพาะในเวลากลางวัน นิยมใช้ในอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า และอาคารที่ต้องการความสวยงามและประสิทธิภาพด้านพลังงานร่วมกัน
2. อะลูมิเนียมคอมโพสิต (Aluminum Composite)
อะลูมิเนียมคอมโพสิต วัสดุที่นิยมใช้สำหรับการหุ้มผิว Facade เพราะมีคุณสมบัติเบา ทนทาน และสามารถดัดโค้งได้ง่าย ทำให้สามารถออกแบบ Facade ได้หลากหลายรูปแบบ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติกันน้ำ ทนต่อสภาพอากาศได้สูง จึงเหมาะกับการใช้งานทั้งภายนอก และภายในอาคาร
อะลูมิเนียมคอมโพสิตถูกออกแบบมาให้มีชั้นประกอบหลายชั้น โดยมีแผ่นอะลูมิเนียมบาง ๆ ทั้งสองด้าน และแกนกลางที่ทำจากพลาสติกชนิดพิเศษ เช่น โพลีเอทิลีน (PE) หรือแร่ทนไฟ (FR) ซึ่งให้ความแข็งแรง และลดน้ำหนักของวัสดุได้ดี

ข้อดีของอะลูมิเนียมคอมโพสิต:
- น้ำหนักเบา แต่มีความแข็งแรงสูง ทนต่อแรงกระแทก และช่วยลดภาระโครงสร้างของอาคาร
- ทนต่อสภาพอากาศ ไม่เป็นสนิม ทนความชื้น และป้องกันแสงแดดได้ดี
- สามารถเลือกสีและลวดลายได้หลากหลาย มีสีให้เลือกมากมาย รวมถึงลายไม้และลายหินอ่อน ช่วยเพิ่มความหรูหราและความทันสมัยให้กับอาคาร
- ติดตั้งง่าย และบำรุงรักษาน้อย สามารถติดตั้งได้รวดเร็ว ไม่ต้องใช้แรงงานหนัก และดูแลรักษาได้ง่าย
- เป็นฉนวนกันความร้อนและเสียงได้ดี ช่วยลดอุณหภูมิภายในอาคารและลดเสียงรบกวนจากภายนอก
3. เหล็กและสแตนเลส (Steel & Stainless Steel)
เหล็ก และสแตนเลสเป็นวัสดุที่ใช้ในงาน Facade ที่ต้องการความแข็งแรงสูง มักใช้เป็นโครงสร้างรองรับหรือองค์ประกอบตกแต่งของอาคาร


ข้อดีของเหล็กและสแตนเลส:
- มีความแข็งแรงและทนทานสูง
- สามารถใช้ร่วมกับวัสดุอื่น ๆ เช่น กระจก หรืออะลูมิเนียมคอมโพสิต เพื่อเพิ่มความสวยงาม
- สแตนเลสมีความทนทานต่อการกัดกร่อน เหมาะกับอาคารที่อยู่ใกล้ทะเลหรือในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง



4. ไม้สังเคราะห์ (Composite Wood)
ไม้สังเคราะห์เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมในการทำ Facade สำหรับอาคารที่ต้องการความเป็นธรรมชาติและความอบอุ่น

ข้อดีของไม้สังเคราะห์:
- ให้ความสวยงามเหมือนไม้จริง แต่ทนทานต่อสภาพอากาศมากกว่า
- ไม่ต้องการการบำรุงรักษามาก
- สามารถใช้ร่วมกับกระจกหรืออะลูมิเนียมคอมโพสิตเพื่อเพิ่มความทันสมัย
วิธีเลือกวัสดุ Facade ให้เหมาะกับอาคารของคุณ
การเลือกวัสดุสำหรับ Facade ควรคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความสวยงาม ความทนทาน และคุณสมบัติด้านพลังงาน โดยสามารถเลือกตามประเภทของอาคารได้ดังนี้:
- อาคารสำนักงาน (Office Buildings): แนะนำให้ใช้กระจก Low-E หรือกระจกสะท้อนแสง เพื่อลดการใช้พลังงานจากเครื่องปรับอากาศ
- อาคารพาณิชย์ (Commercial Buildings): อะลูมิเนียมคอมโพสิตเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะช่วยเพิ่มความสวยงามและสามารถออกแบบได้หลากหลาย
- บ้านพักอาศัย (Residential Buildings): ควรเลือกใช้ไม้สังเคราะห์หรือกระจกนิรภัย เพื่อความปลอดภัยและบรรยากาศที่อบอุ่น
หากคุณกำลังมองหาการติดตั้ง Facade ไม่ว่าจะเป็น Curtain Wall หรือ Windows & Doors และต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม Facade Solution พร้อมให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ และติดตั้งโดยทีมงานมืออาชีพ เพื่อให้มั่นใจว่าอาคารของคุณจะมีดีไซน์ที่สวยงาม คงทน และมีประสิทธิภาพสูงสุด
📞 ติดต่อเราได้ที่ Facade Solution เพื่อขอคำปรึกษาฟรี!